หั่นเครดิตสามแบงค์ใหญ่ในประเทศไทย
หลังจากที่ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไข้ไวรัสโควิด19 นั้น และทางรัฐบาลเอง รวมไปถึงธนาคารแห่งประเทศไทยได้มีนโยบายให้ทางธนาคารต่างๆ ออกแคมเปญเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ของแต่ละธนาคารให้เดินหน้าและก้าวต่อไปได้ จนล่าสุด ฟิทช์ เรทติ้งส์ ซึ่งเป็นสถาบันตัวชี้วัดผลประกอบการของธนาคาร ได้ออกมาหั่นเครดิตของสามธนาคารใหญ่ในประเทศไทย
ไม่ว่าจะเป็นธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย จากผลกระทบต่อภาวะระบาดของไข้ไวรัสโควิด19 จนฉุดรายได้ธนาคารซึ่งคาดว่าจะลากยาวไปสองปี และกดคุณภาพสินเชื่อแย่ลง ส่วนธนาคารที่ยังได้รับเครดิตดีอยู่นั้นคือ ธนาคารกรุงไทย
โดยเหตุผลที่สถาบันแห่งนี้ได้มีการปรับเครดิตของธนาคารกรุงเทพ ลดลงนั้นได้สะท้อนถึงความท้าทายของสภาพแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจและผลกระทบที่รุนแรงต่อเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของโควิด19 ที่กระจายไปในวงกว้าง ซึ่งธนาคารกรุงเทพ เองอาจจะได้รับผลกระทบอย่างมากในช่วงระยะสองปีข้างหน้านี้ เมื่อเปรียบเทียบกับผลงานในปีที่ผ่าน และจะมีค่าสำรองหนี้สูญที่เพิ่มขึ้น รายได้ของธนาคารก็อาจจะปรับตัวลดลงจากภาวะอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ
เช่นเดียวกันธนาคารกสิกรไทย ที่ทางสถาบันนี้นั้นให้มุมมองว่า การบริหารงานและการดำเนินงานของธนาคารกรุงเทพ และธนาคารกสิกรไทยไม่ได้แตกต่างกัน จึงทำให้มีผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจที่เกิดจากไข้ไวรัสระบาดอยู่ในตอนนี้ ส่วนในรายของธนาคารไทยพาณิชย์เองนั้น การปรับลดอันดับเครดิต เป็นผลมาจาการระบาดของไข้ไวรัสโควิด ที่ได้รับผลกระทบอย่างมากในช่วงระยะเวลาสองปีข้างหน้าเมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามธนาคารไทยพาณิชย์ ยังคงมีส่วนแบ่งการตลาดสูงเป็นอันดับหนึ่งในสามในด้านของสินทรัพย์และเงินฝาก
และมีลูกค้ารายย่อยที่เป็นกลุ่มประเภทสินเชื่อที่อยู่อาศัย เครือข่ายธุรกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งสถาบัน ฟิกซ์ ได้มองว่า ในระดับความแข็งแกร่งทางการเงินปัจจุบันนั้น ธนาคารน่าจะสามารถหลีกเลี่ยงการถูกปรับลดอันดับลงเพิ่มเติมได้ เนื่องจากทางสถาบันเองก็มองว่า ในระดับของธนาคารไทยพาณิชย์นั้น มีความสามารถในการรองรับผลกระทบเชิงลบได้ดีกว่าธนาคารอื่นที่ถูกปรับลดเครดิตลงด้วยกัน
และสำหรับธนาคารกรุงไทยนั้น ทางสถาบันไม่ได้มีการปรับลดเครดิตลงแต่อย่างใด โดยให้เหตุผลว่า จากเครือข่ายธุรกิจที่มีความแข็งแกร่งในประเทศไทยและฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งโดยเฉพาะกลุ่มรัฐวิสาหกิจและข้าราชการ จึงเป็นปัจจัยให้ธนาคารยังคงรักษาความสามารถในการระดมทุน ให้อยู่ในระดับทีมีความแข็งแกร่งและรักษาความสามารถในการแข่งขันได้ดีอีกด้วย
ซึ่งทางสถาบันมองว่าภายในระยะสองปีนี้ ทางธนาคารกรุงไทยมีโอกาสที่จะก้าวไปได้ไกลกว่าสามธนาคารที่โดนปรับลดความน่าเชื่อถือลงไป
ได้รับการสนับสนุนโดย bk8