หลายๆ คนเคยมีการตั้งคำถามว่า หากเราไม่ได้เกิดในประเทศไทย หรือสร้างเลือกประเทศที่จะไปเกิด หรือจะใช้ชีวิตวัยเกษียณ เราอยากไปอยู่ประเทศไหน ซึ่งหลายๆ คนต่างมีคำตอบที่แตกต่างกันไป แต่ชื่อประเทศญี่ปุ่น คงมีหลายหลายคนที่ตอบเหมือนกัน เพราะหากใครคนใดเคยไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นมาแล้ว คนส่วนใหญ่เกือบร้อยละ 80 ต้องมีความอยากกลับไปเที่ยวอีกครั้ง

อาจจะเพราะด้วยประเพณีวัฒนธรรมที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นคนถ้อยทีถ้อยอาศัย ยิ้มเก่งและสุภาพ หรือแม้แต่ความปลอดภัยในเรื่องทรัพย์สินก็ไม่ต้องกลัว และอากาศหรือความสะอาดก็น่าอยู่ แต่หลายๆ คนทราบมั้ยว่า ประเทศญี่ปุ่นที่ดูสวยงานและน่าใช้ชีวิตอยู่นั้น ก็มีมุมหลายๆมุม หรือสถานที่หลายๆที่ ที่คนส่วนใหญ่ไม่เห็น นั่นก็คือสลัมของคนญี่ปุ่น!

น่าแปลกมั้ยที่ประเทศญี่ปุ่น ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องของความเจริญด้านเศรษฐกิจนั้นก็มีมุมมืดเหมือนกัน และสลัมที่ว่านั้นก็อยู่ในเมืองโอซาก้า เมืองที่ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับต้นๆของประเทศนี้ แต่ในมุมมืดของความเจริญเมืองโอซาก้านี้ ถนนคามากาซากิ ที่ดูค่อนข้างโล่ง แต่เต็มไปด้วยคนสูงอายุและคนที่ด้วยเหมือนไร้ที่พักผิง และไม่มีงานทำ 

ถนนคามากาซากิ เปรียบเสมือนแหล่งของคนไร้บ้าน ซึ่งทางรัฐบาลญี่ปุ่นนั้น พยายามที่จะเข้ามาช่วยเหลือและงานให้คนเหล่านี้ทำ แต่ด้วยคนจำมากที่นี่ขาดปัจจัยที่สำคัญอย่างนึงที่ทำให้พวกเค้าใช้ชีวิตค่อนข้างลำบาก นั่นก็ที่พักอาศัยที่ถาวร หลายๆคนต้องนอนตามท้องถนน และเร่ร่อนเปลี่ยนที่นอนไปในแต่ละคืน พวกเค้าใช้ชีวิตอยู่ไปในแต่ละวัน ด้วยการรับจ้างเป็นแรงงานก่อสร้าง หรือเก็บขยะ และทำความสะอาดในแต่ละวัน โดยรัฐบาลพยายามผลักดันให้เมืองโอซาก้า เป็นเมืองคู่แข่งเทียบเท่ากับเมืองหลวงโตเกียว โดยการร่วมมือกับภาคเอกชน สร้างโรงแรม หรือธุรกิจร้านค้า ตึกอาคารใหญ่โต

เพื่อให้เกิดการใช้แรงงานที่ต่อเนื่อง และมีการจ้างงานคนพื้นที่ ซึ่งหลังการทำงานในแต่ละวัน คนย่านคามากาซากิ เหล่านี้ก็จะรับค่าแรง และกลับไปหาที่นอนตามท้องถนน ซึ่งทุกๆวัน คนเหล่านี้ก็ใช้ชีวิตแบบนี้ จะมีแค่วันอาทิตย์ที่พวกเค้าได้พักผ่อน และนั่งพัก ซึ่งบางคนก็ใช้เวลาเหล่านี้นั่งมองทอดสายตาไปยังเบื้องหน้า เหมือนคนที่รอคอยความหวัง บางคนก็มีสมบัติอันล้ำค่า นั่งมองรูปถ่ายที่มีอยู่ในมี คิดถึงความทรงจำในอดีต และบางคนก็เอาเงินที่ได้จากค่าจ้าง มานั่งดื่มเบียร์และจิบไป เหมือนกับว่าเป็นการให้รางวัลกับตัวเอง แต่ไม่ว่าทุกคนจะทำอะไร นี่คือโลกแห่งความเป็นจริง ที่ทุกประเทศก็มีอยู่