เพิ่งมีข่าวออกมาเป็นที่เกรียวกราวเกี่ยวกับสถานีโทรทัศน์ช่อง3

ที่มักจะสร้างผลงานดีดีมาให้กับประชาชนชาวไทยได้ดูกันอย่างต่อเนื่องแต่มาในปีนี้ทางผู้บริหารของช่องสามได้ออกมาประกาศถึงโครงการที่จะให้พนักงานของช่องสามทั้งหมดได้ร่วมกันตัดสินใจร่วมกันเนื่องจากว่าทางช่องสามให้เหตุผลว่าตั้งแต่ปีที่ผ่านมาผลประกอบการของทางช่องสามไม่ค่อยดีซึ่งออกไปในทางขาดทุนเสียด้วยซ้ำทำให้ผู้บริหารของช่องสามต้องแบกรับภาระทางการเงินเอาไว้สูงมากจนในปัจจุบันนี้ทางช่องสามเห็นสมควรแล้วว่าจะต้องมีการลดขนาดขององค์กรลงเพราะไม่สามารถที่จะทนพิษเศรษฐกิจไม่ไหว

เพราะอย่างที่รู้กันอยู่ว่าตอนนี้เศรษฐกิจของประเทศไทยออกไปในแนวขาลงเป็นอย่างมากทุกบริษัทจึงต้องมีนโยบายเพื่อที่จะออกมาช่วยเหลือบริษัทให้คงอยู่ต่อไปได้ซึ่งหนึ่งในบริษัทที่ปลอดประสพปัญหาเกี่ยวกับเศรษฐกิจก็คือบริษัทของช่องสามนี่เอง

โดยโครงการนี้จะเป็นการให้พนักงานสมัครใจลาออกเองเพราะไม่อยากจะต้องมากดดันว่าใครควรจะออกโดยเมื่อปีที่แล้วมีพนักงานตัดสินใจลาออกไปจากช่องสามเป็นจำนวนถึง 154 คนสำหรับปีนี้ก็เช่นเดียวกันต้องมารอดูกันว่าจะมีใครตัดสินใจลาออกเยอะบ้างหรือไม่ซึ่งถ้าหากลาออกตามโครงการที่ ทางช่องสามได้ประกาศไว้ก็จะสามารถได้รับเงินเยียวยาชดเชยตามกฏหมายกำหนดจะเห็นได้ว่าตอนนี้หลายหลายหน่วยงานทั้งทั้งที่เคยเป็นองค์กรใหญ่มากๆต่างก็ประสบกับปัญหาเศรษฐกิจต้องลดขนาดองค์กรลงเพื่อรักษาสถานะของบริษัทเอาไว้

และให้พนักงานบางส่วนยังมีงานทำอยู่ ซึ่งในปัจจุบันวงการโฆษณาและวงการทีวีถือว่าชะลอตัวเป็นอย่างมากบริษัทต่างๆที่เคยซื้อโฆษณาเพื่อออกทีวีก็หยุดการคือซื้อโฆษณาเพราะปัญหาเศรษฐกิจไม่มีเงินเพียงพอที่จะนำมาลงทุนด้านการโฆษณาและเมื่อไม่มีการโฆษณารายการทีวีต่างๆก็ไม่มีเม็ดเงินเข้ามาบริษัทซึ่งก็จะส่งผลกระทบในวงจรการโฆษณาเป็นละลอก ละลอกดังนั้นบริษัทใหญ่ใหญ่จึงต้องมีการลดขนาดจำนวนของพนักงานลงให้เพียงพอกับงานที่ได้รับเพราะเมืองานน้อยแต่พนักงานเยอะ

ก็ทำให้บริษัทขาดทุนได้ดังนั้นเพื่อไม่อยากปิดกิจการจึงต้องมีการลดจำนวนพนักงานลงและหาค่าเศรษฐกิจกลับมาดีขึ้นเมื่อไหร่ทางบริษัทก็จะกลับมารับพนักงานเค้ากลับมาทำงานใหม่ คงต้องมารอดูกันต่อไปว่าจะมีบริษัทอะไรอีกบ้างที่จะประกาศลดจำนวนพนักงานลงเพราะผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจเหมือนอย่างที่ช่องสามกำลังเป็นซึ่งคาดว่านับจากนี้ของจะมีตามหลังช่องสามมาอีกมากแน่นอน